วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Introduction to OSI Model

ในปี 1983 องค์กรมาตราฐานสากล International Standards Organization (ISO) ได้กำหนดมาตราฐาน OSI Model ขึ้น หรือเรียกอีกอย่างว่า X.200 Model เพื่อใช้เป็นมาตราฐานในการส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย OSI นั้น ย่อมาจาก Open System Interconnection ประกอบด้วย ชั้น(layer)ต่างๆ 7 เลเยอร์ ซึ่งจะทำงานแยกกันโดยชัดเจน แต่ละเลเยอร์ไม่เกี่ยวข้องกัน เลเยอร์ที่อยู่ต่ำกว่า จะให้บริการเลเยอร์สูงกว่า และนอกจากนี้ OSI ยังจัดได้ว่าเป็นระบบเปิด "Open System" นั่นคือ เป็นมาตราฐานกลางอย่างแท้จริง ไม่ขึ้นอยู่กับยี่ห้อผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ เนื่องจากแต่เดิมได้มีมาตราฐานเกี่ยวข้องกับการสื่อสารอยู่มาก ซึ่งแต่ละมาตราฐานนั้นจัดได้ว่าเป็น Propitary ซึ่งต้องเป็นอุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกันเท่านั้นจึงจะสื่อสารกันได้ เช่นของ บริษัท IBM , Novell เป็นต้น ทำให้ผู้บริโภคต้องรับภาระในการซื้ออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกันตลอด มิเช่นนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้

กล่าวถึงประวัติของอินเตอร์เน็ต
ในช่วงปี 1969 ช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ทางกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ(DoD) ในสมัยนั้นได้จัดตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้น ชื่อ ARPA (Advance Research Projects Agency) เพื่อวิจัยสิ่งต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ การที่สหรัฐต้องการที่จะตืดต่อสื่อสารข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากหน่วยบัญชาการ ไปยังกองทัพ เพือให้สามารถสั่งโจมตีได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง โดยที่ถ้าหากการสื่อสารช่วงหนึ่งช่วงใด ขาดหายไปหรือไม่สามารถติดต่อได้ จำเป็นต้อง หาเส้นทางอื่นเพื่อให้สามารถส่งต่อไปยังปลายทางได้ตลอดเวลา โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 4 มหาวิทยาลัย นั่นคือ
1.University of California at Los Angeles
2.University of California at Santa Barbara
3. Standford Research Institute
4.University of Utah
โดยแต่ละมหาวิทยาลัยคือ โหนดๆหนึ่งที่ใช้สำหรับส่งข้อมูล ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "IMP" Interface Message Processor เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับโหนดอื่นๆ และเกิดโปรโตคอลแรกขึ้นในโลก ชื่อ "NCP" Network Control Protocol เพื่อใช้ในการส่งข้อมูลแต่ละโหนดขึ้น หลังจากนั้นก็ได้มีวิวัฒนาการจากองค์กร ARPANET ก็ได้พัฒนาโปรโตคอลที่ใช้สื่อสารมาเรื่อยๆ จนมาเป็น TCP/IP ในปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น