เริ่มต้นกับ riverbed เป็นชื่อของโปรดักหนึ่งซึ่งทำหน้าที่หลักๆคือเป็น WAN Optimizer อย่างหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพแบนวิธที่เรามีอยู่ให้สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการใช้งานนั้นเราจะต้องมีตัว riverbed ทั้งสองฝั่งของ WAN link จึงจะสามารถใช้งานได้ มิเช่นนั้นถ้าเรามีเพียงฝั่งเดียว ก็จะไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้
ทำไม riverbed สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ WAN ได้?
หลักการของ riverbed สามารถสรุปได้คร่าวๆดังนี้
1. การขยายขนาดของ TCP Segment เนื่องจากขีดจำกัดขนาดของ Segment ใน TCP นั้นมีขนาดจำกัด ดังนั้นเราจึงขยายขนาดของ Segment นี้ให้สามารถส่งข้อมูลใน 1 segment ได้มากขึ้น ลดความถี่ในการทำ handshake ลง
2. ถ้าเป็นการเรียกใช้งานข้อมูลเดิม จะไม่ทำการส่งข้อมูลที่เป็นข้อมูลจริงไป จะมีการส่งแค่ Reference ขนาดเพียง 16 byte แทน การ Reference นี้มีด้วยกัน 4 Level อาทิเช่น Level ใหญ่สุดจะเป็นไฟล์ทั้งไฟล์ที่เป็นไฟล์เดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถ้าหากมีการเรียกใช้งานไฟล์เดิมก็จะส่งเพียง Ref. code 16 byte เท่านั้น หรือถ้าหากข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนก็จะส่งส่วนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้วย Ref. code ที่มีขนาดเล็กกว่า level แรกๆเหมือนเดิม ส่วนที่เปลี่ยนก็จะนำมาทำเป็น Ref. code ใหม่แล้วส่งไปเช่นกัน ทำให้ข้อมูลที่วิ่งผ่าน WAN จริงๆ ไม่ใช่ Data จริง เป็นเพียง Code ที่วิ่งส่งไปมาระหว่าง Site เท่านั้น
3. มีการ Compress Data ก่อนส่งข้อมูล ตามหลักการทั่วไป เช่น Haffman , LZ เป็นต้น
4. ทำการ Handshake กับ Server แทนในบางกรณีทำให้ Client ไม่ต้อง Handshake เอง
การทำงานของ Riverbed นั้นถือได้ว่า เป็นการทำงานบน L4 ใน OSI Model ซึ่งในอนาคตอาจมีการทำงานในชั้นที่สูงขึ้น
Mode การทำงาน ของ Riverbed มีอยู่ด้วยกันหลาย Mode ในแง่ของ Addressing
1. Correct Addressing การติดต่อกันระหว่าง site ใช้ IP และ Port ของ riverbed ในการติดต่อโดยตรง
2. Correct IP & Port Visibility การติดต่อกันระหว่าง Site ใช้ IP ของ Riverbed แต่ใช้ Port จริงๆที่สื่อสารกัน
3. Full IP & Port Visibility การติดต่อกันระหว่าง Site ใช้ IP และ Port ที่สืิ่อสารกันจริงๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
รูปแบบการสื่อสารของ Riverbed สามารถเลือกได้ 2 รูปแบบ คือ
1. In_path rule ตั้งค่าที่ฝั่งของต้นทาง โดยมีให้เลือกหลาย mode ย่อย คือ
1.1 Auto discovery
1.2 Fixed- target
1.3 Pass-through
2. Peer rule คือตั้งค่าที่ฝั่งปลายทาง
กรณีที่ไม่สามารถใช้งาน Riverbed ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ข้อมูลมีการเข้ารหัส แต่ในบางกรณี Riverbed สามารถ Decrypted ได้
2. Application ทื่มีการส่งข้อมูลครั้งละน้อยๆ แต่บ่อย เนื่องจากโดยปกติ Riverbed จะมีการรอรวมข้อมูลจริงก่อนส่งทุกครั้ง เป็นเวลา 6 ms ถ้าหากไม่มีข้อมูลใน Session นี้ส่งมาต่อ จึงจะเริ่มกระบวนการ Compress และส่งได้
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเล่ารายละเอียดเชิงลึกต่อนะครับ วันนี้เอาคร่าวๆก่อน อิอิ
สุดยอด!!เซิร์ชมาเจอเลย กำลังนึกถึงอยู่พอดี...
ตอบลบจำได้ว่าวั้นนั้นนั่งเทรนกันทั้งวัน มึนมากๆ คิดถึงวันเก่าๆเลยนะเนี่ย
สบายดีนะคับ โซนี่บอด เอ้ย! โซนี่บอนด์
:D
watashihamingdesu...
สวดยับ
ตอบลบรออยู่นะครับ
ตอบลบ